รสแซ่บจัดจ้าน ส้มตำปูปลาร้า ตำยังไงให้แซ่บ

ส้มตำปูปลาร้า เป็นอาหารทางภาคอีสาน รสชาติจะมีความเผ็ด จัดจ้านในตัว ซึ่งทั่วโลกรู้จกกันเป็นอย่างดี และเป็นเมนูที่คนไทยแทบจะทุกภาคชื่นชอบมาก ๆ กันเลยทีเดียว ภาคอีสานนั้นในทุก ๆ มื้อจะต้องมีเมนูนี้แน่นอน ขาดไม่ได้เลย .

ประโยชน์

หากจะเอ่ยชื่อเมนูอาหารของเมืองไทยบ้านเรานั้นคงเอ่ยกันไม่หมดหรอกครับ เพราะมันเยอะมาก ๆ แถมรสชาตินั้นก็อร่อยถูกอกถูกปากกันทั้งนั้น มีทั้งรสเผ็ดจัดจ้าน เปรี้ยวหวานมันเค็ม ครบทุกรสชาติเลยก็ว่าได้ และก็ที่สำคัญอาหารบ้านเรานั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 ภาค และอาหารในแต่ละภาคนั้นก็อร่อยแตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าหาที่ติไม่ได้เลยละ.

ก่อนที่เราจะไปทำส้มตำนั้นเรามาดูกันก่อนครับว่า ส้มตำนั้นมีประโยชน์มั๊ย คำตอบมีครับ บางท่านอาจจะเข้าใจว่ากินส้มตำไปแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เป็นการเข้าใจผิดอย่างแรงเลยครับ คุณค่าทางโภชนาการจากส้มตำนั้นก็จะได้มาจากส่วนประกอบนั่นเองครับ เช่น มะละกอ ก็จะมี แคลเซียม,เหล็ก,ฟอสฟอรัส,วิตามินซี เป็นต้นครับ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการอย่างมากเลย ก็จะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ที่สำคัญอีกอย่างมะละกอเป็นยาระบายอ่อน ๆ ด้วยครับ.

น้ำตาลมะพร้าว มีคุณค่าสารอาหารก็คือจะมี ธาตุเหล็ก,ฟอสฟอรัส,แคลเซียม นั่นเอง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ร่างกายของเราต้องการ ส่วนในน้ำปลานั้นก็จะมีกรดอะมิโนและโปรตีน ซึ่งร่างกายของเราจะขาดไม่ได้เช่นกัน สรรพคุณ กระเทียม มีคุณค่ามากมายก็ถือว่าเป็นสมุนไพรไทยของเราอีกอย่าง มีประโยชน์ต่างๆเช่น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับเหงื่อ ช่วยขับลม ช่วยขับเสมหะ ลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล เป็นต้น.

มะเขือเทศ สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ เพราะในมะเขือเทศมีสารต้านต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง มะเขือเทศยังช่วยให้เราดูแลอ่อนกว่าวัยด้วยครับ อั๊ยยะ! ส่วนพริกนั้นก็จะทำให้เราทานอาหารได้แซ่บมากยิ่งขึ้น ช่วยขับลม แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง แก้อาการท้องอืด เป็นต้น มะนาว มีสรรพคุณทางยา เช่น ช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี แก้อาการอักเสบต่างๆ และยังมีกรดซิตริกและวิตามินซี ที่จำเป็นต่อร่างกาย เห็นมั๊ยครับว่าได้รับสารอาหารเพียบเลย.

เรามาดูประโยชน์จากน้ำสต๊อก เอ๊ย! ปลาร้ากันนะครับว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง ในปลาร้าจะมีโปรตีน คาร์โบไอเดรต ฟอสฟอรัส แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน เอ วิตามิน บี1 และ วิตามิน บี2 ว๊าว! จะเห็นได้ว่าปลาร้านั้นมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมากนะครับ หลายท่านอาจจะเข้าใจว่าไม่มีประโยชน์ใช่มั๊ยละครับ คราวนี้ให้ท่านเข้าใจได้ถูกต้องซะทีนะ แต่ก่อนทานนั้นต้องนำไปต้มสุกก่อนนะครับ.

ส้มตําปูปลาร้า กี่แคล

สำหรับ ส้มตำ เมนูสุดฮิตของคนไทยที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ คงสัยสัยกันละสิว่าใน 1 จาน นั้นมันให้พลังงานกี่แคล คำตอบก็คือ 55 แคลอรี่ นั่นเอง แต่ควรระวังเรื่องความเค็ม ที่มาจากน้ำปลา ปลาร้า ไม่มากจนเกินไป เดี่ยวโรคไตจะมาเยี่ยมนะ.

ส่วนประกอบ

  • มะละกอ 1 ลูก
  • ปลาร้าต้มสุก 2 ทัพพี
  • กระเทียมไทย 3 หัว ใช้ทั้งเปลือก ห้ามแกะเปลือกทิ้ง
  • พริกขี้หนูสวนสีแดง 20 เม็ด ใส่ตามสะดวกของท่านเลย
  • ปู 1 ตัว
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 1 ลูก ต้องนำล้างน้ำให้สะอาดซะก่อน เราจะไม่บีบน้ำมะนาวลงไป แต่จะหั่นเป็นชิ้น ๆ
  • มะเขือเทศสีดา 2 ลูก ใหม่และสดเสมอ เพราะจะได้เนื้อแน่น ๆ

วิธีทำ ตำส้มตำให้แซ่บ ๆ

  • เริ่มต้นกันเลย ฝานเปลือกมะละกออกทั้งลูก เสร็จแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาดครับ จากนั้นก็เริ่มทำมะละกอให้เป็นเส้นๆโดยการสับมะละกอนั่นเองครับ ข้อนี้สบาย ๆ กันอยู่แล้วละ ให้ได้เส้นมะละกอประมาณ 1 ถ้วยครับ.
  • เมื่อได้เส้นมะละกอเสร็จเรียบร้อยตามต้องการ นำเส้นมะละกอไปน็อคในน้ำเย็นเลยครับ หรือน๊อคในน้ำแข็งนั่นเอง เหตุผลที่ว่าเส้นมะละกอมันจะได้กรอบนั่นเองครับ เคล็ดลับนี่ไง.
  • คราวนี้เราจะมาตำแล้วนะครับ ใส่กระเทียมไทยลงไปก่อนครับ จากนั้นตำไปเลย พอแหลกได้ที่แล้วพริกขี้หนูสวนใส่ลงไป แล้วตำต่อไปครับให้พริกขี้หนูพอแหลก.
  • จากนั้นใส่ปูลงไปครับ หักตัวมันก่อนนะจากนั้นค่อยๆตำเบาๆครับ แล้วใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป แนะนำว่าต้องอย่างดีเลยนะครับ จากนั้นใส่น้ำปลาสักหน่อยครับตามลงไป ตามด้วยน้ำปลาร้าต้มสุกลงไป ต่อด้วยมะนาวลงไปเลยครับ โดยมะนาวให้หั่นเป็นชิ้นๆลงไปเลยครับ ยกเว้นแกนของมันไม่เอาครับ.
  • ต่อด้วยหั่นมะเขือเทศลงไปเลยครับ ใส่สัก 2-3 ลูก หรือตามใจชอบได้เลยครับ ย้ำว่าต้องสดๆและใหม่ๆเลยจะดีมาก แล้วก็ทำการคลุกๆตำๆให้เข้ากันครับ ทำเบาๆนะครับเดี๋ยวมันกระเด็น.
  • พอได้ที่แล้วใส่เส้นมะละกอที่เราน๊อคน้ำเย็นไว้นั่นละครับ ใส่ลงไปเลย จากนั้นก็ตำและคลุกเคล้าให้เข้ากันครับ พอคลุกเคล้าเข้ากันได้ที่แล้ว ชิมรสสักหน่อย เป็นอันเสร็จสิ้นครับ.
  • พร้อมทานกันได้แล้วครับ ส้มตำปูปลาร้า แซ่บ! ฟินแท้แน่นอน! แนะนำว่าทานคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ พร้อมไก่ย่าง หรือปิ้งไก่ และเครื่องเคียงผักสดต่างๆ ปูเสื่อล้อมวงกันได้เลยครับ
คำแนะนำ

สำหรับเครื่องปรุงและส่วนผสมก็ตามนั้นเลยนะครับ แต่ไม่ต้องเป๊ะตามนั้น เพราะว่าคนเราจะชอบรสชาติไม่เหมือนกัน อาจจะเติมนั่นนิดนี่หน่อยก็จัดไปเลยครับ ส่วนรสชาตินั้นจะแซ่บนัวมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับฝีมือในการปรุงของท่านเอง หากท่านใดไม่กินปลาร้าก็ไม่ต้องใส่นะครับ มันก็จะกลายเป็น ส้มตำปู แต่หากใครไม่ทานปูหรือไม่มีปูใส่ มันก็จะกลายเป็น ส้มตำปลาร้า ขึ้นมาทันทีเลยครับ หากไม่กินปลาร้าและไม่กินปู มันก็จะเป็นส้มตำธรรมดาทันที พอนึกภาพออกกันนะครับ.

คำเตือน

เมนู ส้มตำปูปลาร้า ไม่แนะนำให้กินเป็นมื้อเช้านะครับ เนื่องจากปลาร้าเป็นของหมักดอง อาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือท้องเสียได้ หากกินควรจะเป็นมื้อเที่ยงหรือว่าเมื้อเย็นจะดีที่สุดครับ แต่มื้อเช้าห้ามเด็ดขาดครับ!

สรุป

สำหรับเมนู ส้มตำปูปลาร้า ก่อนอื่นเลยเราต้องหามะละกอดี ๆ มาครับ เอาพอมีน้ำหนักประมาณสักโลจะดีมากครับ หากเป็นมะละกอแถวดำเนินแล้วละก็แหล่มเลยครับ หรือหาซื้อแถวตลาดสดตามสะดวกก็ได้ครับ ส่วนพริกนั้นแนะนำว่าให้ใช้พริกยอดสนสีแดงจะดีมากครับ อย่าใช้พริกสีเขียวเหตุผลเพราะว่ามันจะเหม็นเขียวนั่นเอง ส่วนกระเทียมนั้นต้องเป็นกระเทียมไทยพร้อมกับตำไปทั้งเปลือกเพราะจะได้กลิ่นหอมของกระเทียมในตัวครับ ส่วนปลาร้านั้นย้ำว่าต้องต้มสุกก่อนนะครับ ห้ามทานดิบ ๆ นะครับ.