สำหรับเมนูมาแนะนำมื้อนี้ต้องบอกว่าไม่แพ้ ส้มตำปูปลาร้า เลยครับ เนื่องด้วยรสชาติและส่วนผสมนั้นมันจะคล้ายคลึงกันมาก ๆ เลยทีเดียวครับ จะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง มื้อนี้รับรองว่าเด็ดดวงอย่างแน่นอนครับ และก็เชื่อว่าทุกๆท่านต้องเคยลิ้มลองรสชาติกันอยู่แล้วละครับ อาหารมื้อนี้ก็คือ ตําถั่วปลาร้า นั่นเองครับ เราไปดูการทำพร้อมวัตถุดิบกันเลยครับ
ส่วนผสมและวัตถุดิบ
- ถั่วฝักยาวหั่น 1 ถ้วย หั่นให้พอคำหรือตามความต้องการ เอาพอดี ๆ
- น้ำปลาร้าต้มสุก 2 ทัพพี หากจะให้ดีขอแบบนัวๆหอม ๆ
- พริกขี้หนูสวน 15-20 เม็ด ใส่ตามความเหมาะสม หากชอบเผ็ดมากน้อยแค่ไหน เพิ่มหรือลดจำนวนพริกลงเอาครับ
- กระเทียมไทย 3 หัว จะใส่มากกว่านี้ก็ได้ครับตามสบาย ไม่ต้องเอาเปลือกออกให้ใช้ไปเลยทั้งเปลือก
- ผงชูรส 1 ช้อนชา หากใครไม่ทานชูรสใส่น้ำตาลทรายทดแทนเอาครับ เพิ่มความนัวนั่นเอง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ลูก ขอเป็นมะนาวแป้นยิ่งดีครับ เพราะว่าน้ำมันจะเยอะนั่นเอง
- มะเขือเทศสีดา 2 ลูก แนะนำให้ซื้อใหม่ๆ เน้นสดเป็นพิเศษเนื่องด้วยจะได้เนื้อที่แน่น ๆ
วิธีทำ
- เริ่มต้นกันเลยครับ ทำไม่ยากชิว ๆ เรานำกระเทียมและพริกสวนมาตำก่อนเลยครับ เอาให้พอแหลกนะครับไม่ต้องละเอียดมากจนเกินไป เอาแหลกพอหยาบ ๆ
- พอได้ที่แล้วจากนั้นก็นำถั่วฝักยาวที่เราหั่นจัดเตรียมไว้แล้วใส่ลงไปในครกเลยครับ จากนั้นก็ตำพอแหลกๆให้ถั่วมันแตกเป็นพอไม่ต้องละเอียดครับ
- คราวนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญครับ นั่นคือปรุงรสนั่นเอง ใส่ไปเลยครับ ผงชูรส น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำปลา มะนาวหั่นเป็นชิ้นลงไปครับ แต่แกนของมันไม่เอานะครับ ส่วนใครถนัดบีบน้ำลงไปก็ได้ครับ ตามด้วยมะเขือเทศสีดาหั่นเป็นชิ้นๆลงไปเช่นกันครับ
- แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันเลยครับ ตำเบาๆระวังมันกระเด็น จากนั้นคลุกเคล้าได้ที่แล้วก็ชิมรสชาติได้เลยครับ ขาดเหลืออะไรก็เติมและใส่ลงไปได้เลย
- เป็นอันเสร็จสิ้นครับ ตําถั่วปลาร้า พร้อมทานกันได้แล้วครับ แนะนำให้ทานควบคู่ไปกับ ไก่ย่าง ปิ้งไก่ ผักสดเครื่องเคียงต่างๆ หากมีน้ำตก ลาบหมู ด้วยแล้วละก็อย่าบอกใครเชียว! แซ่บเวอร์!
- กรณีหากใครไม่กินปลาร้าก็ไม่ต้องใส่นะครับ มันก็จะกลายเป็น ตำถั่ว ธรรมดา ๆ ไปนั่นเอง ง่ายเนอะ!
สรุป
สำหรับการทำเมนูตําถั่วปลาร้าจานเด็ดนี้ไม่ยากเลยใช่มั๊ยครับ ส่วนรสชาติอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับเรานั่นละครับว่าจะปรุงรสชาติได้แซ่บมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ตําถั่วปลาร้าย้ำว่าเคล็ดลับของความอร่อยจริงๆจะอยู่ที่น้ำปลาร้าต้มสุกนะครับ ยิ่งนัวมากเท่าไหร่รสชาติถึงใจอย่างแน่นอนครับ ลองทำกินเองได้ที่บ้านได้เลยครับ วัตถุดิบมีขายตามท้องตลาดทั่วไปครับ.