อาหารอีสานแซ่บหลาย สูตรการทำ ตำแตง นัว ๆ จนน้ำลายหก ไม่อยากวางช้อน

สำหรับเมนูอาหารจานเด็ดแซ่บเวอร์ที่จะมาแนะนำให้ทำกินเองที่บ้านมื้อนี้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยกินกันมาแล้วละครับ ก็เมนูนี้จะอยู่ตามร้านอาหารที่ขายอาหารทางภาคอีสานโดยเฉพาะ แน่นอนรสชาติไม่ต้องพูดถึง แซ่บ! เท่านั้นครับ แต่มื้อนี้เราไม่ต้องสั่งกินก็ได้ครับ เพราะว่ามื้อนี้เราสามารถทำเองได้นั่นคือเมนู ตำแตง เพราะมันทำได้ง่าย ๆ ชิว ๆ สบาย ๆ ที่บ้านเลย.

เป็นคู่แข่ง ตำถั่วปลาร้า และ ส้มตำปูปลาร้า เลยก็ว่าได ส่วนวิธีทำนั้นง่าย ๆ เลยครับขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากและก็ไม่หลากหลายด้วย พร้อมกับส่วนผสมต่างๆนั้นมีไม่เยอะอีกต่างหาก สามารถจับจ่ายหาซื้อหาได้ง่ายๆตามท้องตลาดแถวๆบ้านท่านได้เลยครับ

เตรียมวัตถุดิบ

แต่ก่อนที่จะลงมือทำนั้นเราต้องเตรียมวัตถุดิบกันก่อนจริงมั๊ยครับ! เมนูนี้ต้องเผ็ดนำครับ เพราะไม่งั้นแล้วไม่อร่อยและไม่แซ่บครับ พริกที่ใช้ก็ต้องพริกสดเท่านั้น พริกแห้งไม่ได้นะครับ! ปลาร้าที่ใช้นั้นแนะนำว่าต้องมีความนัวสุดๆมันถึงจะอร่อยครับ แล้วก็ห้ามใช้น้ำตาลทรายนะครับ เมนูนี้เราไม่ใช้นะ แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ผมดู ๆ ภาคกลางจะใส่กันนะครับ แต่ของแท้สูตรดั้งเดิมอีสานแท้ ๆ บ่ใส่นะครับ! เครนะ เข้าใจตรงกันนะ!

ส่วนอื่นๆก็ไม่มีอะไรให้ยุ่งยากแล้วครับ เพราะวัตถุดิบนั้นในครัวเรื่อนบ้านของท่านๆมันน่าจะมีครบอยู่แล้วนะครับ ยกเว้ณแต่ปลาร้า เหอๆ ต้องไปหาซื้อกันหน่อย ก็สมัยนี้ค่อนข้างจะหาซื้อได้ง่ายๆแล้วละครับ แบบไหนมีขายหมดเลยตามตลาดสด บอกเขาไปว่าขอแบบนัวๆเลยครับ เดี๋ยวแม่ค้าเขาจัดให้เอง ยิ่งหากได้ปลาร้าแถวๆ จ.สุพรรณ แล้วละก็เด็ดเวอร์เลยครับ เพราะปลาร้าจากที่นี่มีชื่อเสียงมากครับ ยิ่งความนัวของปลาร้าไม่ต้องพูดถึงเลยหายห่วงเลยละ เอาเป็นว่านัวสุดๆ เหมาะสำหรับที่จะนำมาทำกับเมนูนี้ได้เลย.

ก่อนจะไปลงมือทำมื้อนี้เราไปดูคุณค่าสารอาหารกันสักนิดครับ เมนูนี้มีคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่ คำตอบสั้นๆเลยครับว่า มี อย่างแน่นอน ประโยชน์เราก็จะได้จาก แตงกวา กระเทียม มะนาว ปลาร้า พริก มะเขือเทศ สรุปว่าเราได้สารอาหารมาอย่างครบถ้วนจากส่วนประกอบเลยครับ

คุณค่าสารอาหาร

  • แตงกวา ใน 100 กรัม ให้พลังงาน เพียง 18-19 แคลอรี่ เท่านั้นเอง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก มันได้ผลแน่นอน ในแตงกวายังมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 90% สามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายของคนเราได้ และป้องกันร่างกายขาดน้ำ .แก้อาการท้องผูกได้ ทำให้นอนหลับสบาย ช่วยขับปัสสะวะได้ดี
  • กระเทียม เราจะได้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็น คอยควบคุมระดับน้ำตาลให้ปกติ ช่วยลดความดัน ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างายของเรา แก้จุกเสียดแน่นท้อง ช่วยขับลมในร่างกาย ช่วยระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ แก้อาการท้องผูกนั่นเอง และลดอัตราความเสี่ยงช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคเบาหวานได้อีกด้วย
  • พริก ทางโภชนาการนั้นก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว ในพริกจะอยู่สารที่เรียกว่า แคปไซซิน สารนี้จะให้ความเผ็ดนั่นเอง พริกช่วยให้เราทานอาหารได้มากขึ้น พริกยังมีวิตามินเอ บำรุงสายตา วิตามินซีสูง ทำให้ร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือต้านเชื้อมะเร็งนั่นเอง ลดเสมหะ ลดอัตราความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ เป็นต้น
  • มะนาว แน่นอนครัวในบ้านเราแทบจะขาดไม่ได้เลย ก็เป็นองค์ประกอบในการทำเมนูอาหารมากมายเลยทีเดียว มะนาว ช่วยควบคุมความดันให้ปกติ ขับปัสสะวะ มีวิตามิน ซี สูง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเรา ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี บำรุงผิวพรรณของเราให้ดูมีน้ำมีนวลเปล่งปลั่งอยู่เสมอ ลดอาการอักเสบ ทานน้ำมะนาวแล้วทำให้เรามีอารมณ์แจ่มใสและลดอาการอ่อนเพลียได้
  • ปลาร้า มีคุณค่าทางโภชนาการพอสมควรเลยทีเดียว หารู้ไม่ว่าปลาร้ามีโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายของเรา แถมยังพ่วงวิตามิน เอ มาอีกต่างหาก มีแคลเซียม ซึ่งบำรุงกระดูกของเราให้แข็งแรง มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามิน B1,B2 เป็นต้น จะเห็นได้ว่าในปลาร้ามีสารอาหารเพียบเลย บางท่านอาจเข้าใจว่าปลาร้าไม่มีประโยชน์ ท่านเข้าใจผิดแล้วละ แต่ในการทานนั้นต้องต้มให้สุกก่อนนะถึงจะทานได้ คราวนี้เราไปดูส่วนผสมและขั้นตอนในการทำเมนูนี้ักันเลยครับ
  • คำเตือน เมนูนี้ไม่เหมาะสำหรับที่จะทานในมื้อเช้านะครับ เนื่องด้วยปลาร้าเป็นของหมักดอง จึงไม่เหมาะแก่มื้อเช้านะครับ อีกยังเมนูนี้มีรสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการแสบท้อง ปวดท้อง และอาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ครับ มื้อเช้าแนะนำว่าควรจะเป็นอาหารอ่อน ๆ ครับ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ประมาณนี้จะดีสุด รายละเอียดแนะนำอาหารมื้อเช้า ดังนั้นสำหรับเมนูนี้เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรือว่าเป็นมื้อเย็นเท่านั้นครับ มื้อเช้าห้ามเด็ดขาดครับ
ส่วนประกอบ
  • เส้นแตงกวา 1 ถ้วย ทำให้เป็นเส้น ๆ หรือ หั่นแว่นก็ได้
  • กระเทียม 4 หัว ใช้ทั้งเปลือกไปเลย
  • มะนาว 1 ลูก
  • น้ำปลาร้าต้มสุก 1-2 ทัพพี
  • พริกสด 10 เม็ด / ทานเผ็ดมากไม่ได้ใส่พอประมาณ
  • ผงชูรส 1 ช้อนชา / ใส่ตามใจชอบ แต่อย่าเยอะมากจนเกินไปเอาพอดีเพื่อสุขภาพ
  • มะเขือเทศ 2 ลูก

วิธีทํา

  • เริ่มแรกเรานำแตงกวามาสับและเฉือนให้เป็นเส้นๆ แบบบ้านๆผมทำนะ เฉือน ๆ หั่นเป็นแว่นเลยก็ได้ครับ ใส่ถ้วยพักไว้
  • โขลกกระเทียมและพริกสดก่อนเลยครับ ตำแค่พอแหลกๆไม่ต้องละเอียดมาก โขลกให้แค่หยาบๆเม็ดพริกและกระเทียมมันแตกๆก็พอแล้ว
  • หลังจากนั้นมาปรุงรสกันเลยครับ ใส่น้ำปลาร้าลงไปก่อนเลย ตามด้วยมะนาวบีบน้ำมันลงไปครับ ตามด้วยเปลือกมะนาวด้วย มะเขือเทศหั่นลงไปเป็นชิ้นๆได้เลย ต่อดวยผงชูรสลงไป แล้วโขลกคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ชิมรสชาติได้ยัง พอได้รสชาติตามต้องการแล้วใส่เส้นแตงกวาลงไปครับ โขลกเบาๆคลุกเคล้าให้เข้ากัน ลองชิมรสชาติอีกหน่อยขาดรสอะไรไปมั๊ย
  • พอรสชาติถูกปากเราแล้ว ตักใส่ถ้วยพร้อมทานได้เลยครับ แซ่บ!!
  • แนะนำให้ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ลาบ น้ำตก ส้มตำปลาร้า ไก่ย่างและไก่ปิ้งก็ได้ พร้อมเครื่องเคียงผักสดต่าง ๆ ปูเสื่อล้อมวงเลยดีกว่าครับ

สรุป

เมนู ตำแตง นี้หากปล้าร้ามีความนัวมาก ๆ มันจะเค็มมากครับ ดังนั้นแล้วจะไม่ใส่น้ำปลานะครับ แต่ปลาร้าที่นำมาใช้นั้นจะต้องต้มให้สุกเสียก่อนนะครับ ใช้เวลาต้มน้ำปลาร้าก็จะประมาณ 30 นาทีครับ สามารถต้มเองได้เลย แต่กลิ่นมันแรงมากครับขอบอก อุอุ ทว่าสมัยนี้น้ำปลาร้าต้มสุกมีขายกันแล้วครับ ส่วนผสมอื่นๆก็ไม่มีอะไรมากมายครับ ขั้นตอนการทำนั้นง่ายๆมากๆ รสชาติจะแซ่บหรือไม่อยู่ที่การปรุงรสนะครับ ทำได้เลยครับ แซ่บๆอร่อยๆทุกมื้อนะครับ