เชื่อว่าเมนูจานนี้ทุก ๆ ท่านเคยกินเป็นประจำกันอยู่แล้ว นั่นคืออาหารสิ้นคิดครับ คงนึกออกกันแล้วนะครับว่าเมนูจานนี้มีชื่อว่าอะไร เมนูที่กำลังพูดถึงก็คือ ผัดกะเพรา นั่นเองครับ
ผัดกะเพรา เป็นอาหารจานด่วนของบ้านเราครับ ก็หาซื้อหาทานกันค่อนข้างง่าย ซึ่งแน่นอนล่ะตามร้านอาหารตามสั่งนั้นเมนูนี้ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน ผัดกะเพราก็จะมี ผัดกะเพราไก่ ผัดกะเพราเนื้อ และมื้อที่จะมาแนะนำวันนี้ก็คือ ผัดกะเพราหมูสับ นั่นเองครับ ขั้นตอนการทำเมนูนี้ไม่ยากครับ ง่ายๆเลย
ทว่าไปเมนูผัดกะเพรานั้นเชื่อว่าเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ครับ ตัวผมอีกคนล่ะยอมรับเลยว่าเป็นอาหารจานโปรดและจานด่วนของผมเลย จานโปรดของผมก็จะเป็นกะเพราไก่และก็กะเพราหมูนั่นเองครับ ส่วนเนื้อนั้นผมจะไม่ค่อยทานสักเท่าไหร่ แต่บางท่านก็ชอบทานกะเพราเนื้อก็ไม่แปลกหรอกครับ คนเราชอบไม่เหมือนกันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ส่วนทางด้านรสชาติของผัดกะเพรานั้นรสชาติจะออกไปทางเผ็ดจัดจ้านเลยนะครับ หากเมนูผัดกะเพรามันไม่เผ็ดมันก็จะไม่อร่อยไม่แซ่บเลยละ แต่ทั้งนี้ต้องดูตัวเราก่อนด้วยนะครับ หากไปสั่งตามร้านขายอาหารตามสั่งแล้วละก็หากกินเผ็ดไม่ค่อยได้ก็ต้องบอกทางร้านเขาไปว่าไม่ต้องเผ็ดมาก หากเขาทำรสเผ็ดมาให้โดยไม่ได้บอกทางร้าน อันนี้ช่วยไม่ได้นะ ก็คงต้องกินมันเผ็ดๆไปเลย เหอๆ
แต่ในมื้อนี้เราไม่ต้องไปสั่งใครเลยครับ เพราะเดี๋ยวเรามาลงมือทำกินเองที่บ้าน สั่งตัวเองเป็นพอนะครับจะเผ็ดไม่เผ็ดก็เพิ่มลดจำนวนพริกเอาเองได้ตามสบายเลย ก็เป็นเมนูง่ายๆบ้านๆของบ้านเมืองเราละครับ ซึ่งความจริงแล้วเมนูนี้ต่างประเทศเขาก็รู้จักกันเป็นอย่างดีเลยนะครับ ก็ไม่แพ้ส้มตำเลยละคู่คี่ตามมาติดๆเลยตอนนี้ แต่ที่แน่ๆเมนูนี้เป็นที่นิยมทั่วไทยกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว๊าว!
แต่ก่อนลงมือทำเรามาดูสารอาหารทางโภชนาการเกี่ยวกับเมนูนี้กันเล็กน้อยก่อนนะครับ แน่นอนครับในเนื้อสัตว์ต่างๆนั้นจะมีโปรตีนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นแหล่งอุดมไปด้วยโปรตีนล้วนๆเลยครับ เนื้อหมูนอกจากจะมีโปรตีนแล้วนั้นก็ยังมี วิตามินเอ ไนอาซิน วิตามินบี 1 อีกด้วย ว๊าว! ทั้งนี้เนื้อหมูยังมีเอนไซม์ที่คอยช่วยย่อยสลายคาโบไฮเดรตได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ข้อเสียของเนื้อหมูก็มีเช่นกันครับ เนื้อหมูจะมีไขมันซึ่งอาจจะทำให้โคเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคอื่นๆตามมา แต่ก็ควรทานแต่พอเหมาะไม่ควรทานมากจนเกินไป สำหรับผู้สูงวัยแนะนำให้ทานเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆแทนจะดีกว่าครับ เช่น กุ้ง เนื้อปลา เนื้อไก่ เป็นต้น
มาดูสรรพคุณกะเพรากันบ้างครับ เชื่อว่าเมนูนี้ไม่มีกะเพราจบเลยครับ แน่นอนมันเป็นพืชสวนครัวที่บ้านไหนๆจำเป็นต้องมี เนื่องด้วยกะเพราเป็นส่วนประกอบอาหารหลายๆอย่างๆของไทยเรานั่นเอง ส่วนคุณค่าทางสารอาหารมีมากมายเลยทีเดียว กะเพรา มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์จะว่า Ocimum tenuiflorum L. สรรพคุณ ช่วยขับลม แก้แมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดท้อง แก้จุกเสียด แก้ท้องเฟ้อ แก้ท้องอืด แก้ลมพิษ ช่วยขับน้ำนม แก้คลื่นใส้อาเจียน เป็นต้น จะเห็นได้ว่ากะเพรานั้นเป็นสมุนไพรของไทยเราที่มีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว คราวนี้ไม่ว่าเมนูไหนที่มีกะเพราเป็นส่วนประกอบอย่าเขี่ยทิ้งนะครับ รีบทานเลย!
สรรพคุณ กระเทียม ประโยชน์ของกระเทียมนั้นมีมากมายมหาศาลเลยก็ว่าได้ครับ ก็เป็นวัตถุดิบที่จำเป็นในการทำอาหารของไทยเรา ก็เกือบทุกเมนูต้องมีกระเทียมเป็นส่วนประกอบ กระเทียม ภาษาอังกฤษมีชื่อว่า Garlic ส่วนทางด้านวิทยาศาสตร์เรียกว่า Allium sativum มาดูสรรพคุณกันซิว่ามีอะไรบ้าง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตได้ดี เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเราให้แข็งแรง ควบคุมความดันภายในร่างกายให้เป็นปกติ สามารถรักษาโรคผิวหนังได้ เช่น กลากเกลื้อน ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ สามารถขับสารพิษออกจากร่างกายของเราได้ ช่วยขับลม ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายได้ดีให้เป็นปกติ ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการเมื่อยหล้าจากการทำงาน เป็นต้น เห็นมั๊ยครับว่าพืชสมุนไพรครัวเรือนบ้านเมืองเราสรรพคุณนั้นมหาศาลเลยทีเดียว
สรรพคุณ พริก จะมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Chilli peppers,chili, chile และทางวิทยาศาสตร์จะเรียกว่า Capsicum frutescens L.. รสชาติของพริกนั้นแน่นอนเผ็ด ซึ่งในพริกนั้นจะมีสารที่ทำให้พริกมีรสเผ็ด ซึ่งมีชื่อว่าสาร Capsaicin สารนี้ละทำให้พริกมีรสชาติที่เผ็ดและก็ทนต่อความร้อนได้เป็นอย่างดี มาดูสรรพคุณของพริกกันหน่อยว่าช่วยอะไรได้บ้าง พริกจะมีวิตามินซีที่ค่อนข้างสูงมาก ช่วยให้เราเจริญอาหาร ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเซลล์มะเร็ง ช่วยขับเสมหะได้เป็นอย่างดี ลดหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อได้ดี เป็นต้น ก็ยกตัวอย่างมาให้ดูนะครับว่าพริกนั้นมีสารอาหารให้ประโยชน์แก่ร่างกายของคนเราอะไรบ้าง เพียบเลย
พอทราบคุณค่าทางโภชนาการกันแล้ว คราวนี้ก็โชว์ฝีมือจับตะหลิวและกระทะกันได้เลยครับ ทำกับข้าวให้ครอบครัวได้ทานกันเลย หากสามารถกินเผ็ดได้ทุกคนแล้วละก็สบายเลยครับ เมนูผัดกะเพรานี้แนะนำเลยว่าต้องรสเผ็ดจัดจ้านนำมาก่อนครับ มันถึงจะแซ่บเวอร์ ไปดูวัตถุดิบส่วนประกอบต่างๆกันเลย
ส่วนผสม ผัดกะเพราหมูสับ
- หมูบด หรือ หมูสับก็ได้ 300 กรัม หรือตามจำนวนที่ต้องการ
- กะเพรา ใส่ตามความชอบส่วนตัวเลยครับ ใส่มากยิ่งได้ความแซ่บมาก
- น้ำมันหมู หรือ น้ำมันพืช ไว้สำหรับผัดนั่นเอง ใช้ไม่มาก
- กระเทียมไทย 6 หัว สับให้ละเอียดพอประมาณ
- พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด สับพอให้ละเอียด หากชอบรสจัดใส่พริกมากกว่านี้ก็ได้ สามารถใช้พริกแห้งก็ได้
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
- น้ำสต๊อก 1 กระบวย จะเป็นสต๊อกหมูหรือไก่ก็ได้
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ผัดกะเพราหมูสับ
- เริ่มต้นที่ตั้งไฟเลยครับ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงกระทะเลยครับ หากเป็นน้ำมันหมูได้ยิ่งดี พอน้ำมันกำลังได้ที่ไม่ต้องรอให้ร้อนมากนะครับ ก็ใส่กระเทียมและพริกลงไป ให้เราผัดจนมันมีกลิ่นหอมขึ้นมาเตะจมูกของเราเลยครับ
- พอผัดได้มีกลิ่นหอมแล้วใส่หมูบด หรือหมูสับก็ได้ครับ ใส่ลงไปผัดในกระทะต่อเลย ขั้นตอนนี้เราผัดแค่ให้หมูมันสุกกลางๆก็พอครับไม่ต้องให้เนื้อหมูมันสุกมากนัก
- พอผัดเนื้อหมูได้ที่แล้วใส่น้ำสต๊อกลงไปเลยครับ ขั้นตอนนี้ทำให้ไวหน่อย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันได้เป็นอย่างดี
- จากนั้นผัดได้ที่แล้วมาถึงขั้นตอนการปรุงรสแล้วครับ ก็ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วดำ,น้ำตาลทราย,น้ำมันหอย,ซีอิ๊วขาว ใส่ลงไปเลยครับ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ผัดจนทุกอย่างเข้ากันได้ที่แล้ว ปิดไฟเลยครับ ใส่ใบกะเพราลงไป ผัดๆให้เข้ากันสักทีสองที เป็นอันเสร็จสิ้นครับ ผัดกะเพราหมูสับ พร้อมทานกันได้แล้วครับ อร่อยเวอร์!
- แนะนำให้กินคู่กับ แกงจืด ไข่ดาว หรือจะเป็น ไข่เจียว ก็ได้ครับ พร้อมกับผักสดต่างๆที่ท่านชอบตามใจเลย!
สรุป
การทำเมนูนี้ไม่ยากนะครับ อย่างแรกเลยก็เน้นไปที่เนื้อหมูต้องใหม่และก็สดครับ หากไม่มีน้ำสต๊อกทำไงล่ะ สุดวิสัยจริงๆก็น้ำเปล่าก็ได้ครับ แต่รสชาติมันจะไม่ค่อยนัวนะครับ แต่ทดแทนได้น่ะ ส่วนพริกนั้นนอกเหนือจากพริกขี้หนูสวนแล้วสามารถใช้พริกแห้งแทนก็ได้ครับ แนะนำว่าใช้น้ำมันหมูผัดจะดีมากครับ รสชาตินั้นจัดจ้านเลยครับ ขอให้แซ่บๆกันทุกๆท่านนะครับ