ลดน้ำหนักไม่ลง ต้องทำยังไง

เมื่อลดน้ำหนักและออกกำลังกายอย่างถูกวิธี แต่ถ้าทำทั้งสองอย่างแล้วบนตาชั่งไม่กระดิกแม้แต่น้อย ไม่ยอมลดให้กำลังใจเลย บางคนน้ำหนักไม่ลดลงเลย บางคนแย่ลงน้ำหนักเพิ่มขึ้นทำร้ายจิตใจ สถานการณ์ความปวดใจนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องท้อแท้และยอมแพ้ แต่ทุกอย่างมีเหตุผล ในความเป็นจริงจำนวนน้ำหนักของร่างกายในระดับนั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัด เพราะน้ำหนักปกติของเราเพิ่มขึ้นและลดลงทุกวัน สาเหตุเป็นปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงการสะสมของน้ำ สุญเสียน้ำระหว่างวัน นอนดึกประจำ ความเครียด เป็นประจำเดือน การรับประทานมากเกินไป กินเค็มมาก ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง

ตัวเลขจริง ๆ ไม่ได้บ่งบอกหรือตัดสินว่าเราอ้วนขึ้นหรือผอมลงมากแค่ไหน แต่ตัวที่จะบ่งบอกถึงพัฒนาการของการลดน้ำหนักของเรานั้นก็คือ สัดส่วน รูปร่างต่างหาก ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คนจึงแนะนำให้เราวัดสัดส่วนของตัวเราเองและเก็บไว้เป็นระยะ โดยการวัดจากตำแหน่งของ หน้าอก เอว สะโพก ต้นแขน และต้นขาทั้งสองข้าง หรือเพียงแค่มองเข้าไปในกระจก และรู้สึกถึงกางเกงตัวโปรดที่ฟิตและเริ่มรู้สึกหลวม เริ่มที่จะสวมใส่เสื้อผ้าสมัยหุ่นดีได้ พิจารณาว่าเรามีพัฒนาการที่ดี

รายละเอียด

สิ่งที่ทุกคนคิดของการลดน้ำหนัก

คนส่วนใหญ่ที่ลดน้ำหนักมักจะคาดหวังว่า น้ำหนักจะลดลงหลังรับประทานอาหารคลีน และการออกกำลังกายสม่ำเสมอน้ำหนักจะต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องปกติที่น้ำหนักจะลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายยังไม่ชินและยังไม่สามารถปรับตัวได้ หรือมีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่งร่างกายจะปรับตัวได้ และความเร็วในการลดน้ำหนักจะเริ่มช้าลง การลดน้ำหนักจะเริ่มช้าลงทุกกิโลกรัมที่เราพยายามลดมัน หากเมื่อเราผอมลงแล้ว หากจะลดลงมาอีก มันยิ่งยากมากขึ้น หากอธิบายไว้ในกราฟกราฟ ผลลัพธ์จะเป็นขั้นบันได มันมีช่วงเวลาที่หยุดนิ่ง ในช่วงเวลาที่หลายคนมีอาการคิดไปว่า ทำไมไม่ลงทำไมไม่ลด ทั้งเหนื่อยและไม่กินสิ่งต้องการกิน ทำให้มีอาการคิดมาก แถมเครียดไปโดยไม่รู้ตัว

ซึ่งในความเป็นจริงเมื่อน้ำหนักยังคงที่ติดต่อกัน 3-4 สัปดาห์ อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายคุ้นเคยกับการออกกำลังกาย และโปรแกรมลดน้ำหนัก ลองเปลี่ยนโปรแกรมจากวิธีเดิม ๆ ที่ใช้อยู่ ยกตัวอย่าง เช่น เปลี่ยนอาหาร สลับวันและโปรแกรมการออกกำลังกาย เพิ่มความเข้มของการออกกำลังกาย ถ้าทำทุกอย่างและมั่นใจว่าคุณไม่ได้ทำผิด ลองหยุดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วกลับมาลดอีกครั้ง เพื่อลดความเครียดจากการลดน้ำหนักนานเกินไป

รายละเอียด

กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน

การลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือการลดมวลไขมัน และรักษากล้ามเนื้อให้แข็งแรง แล้วทั้งสองอย่างนี้มันแตกต่างกันยังไง? ไขมันในร่างกายของเรานั้นคล้ายกับฟองน้ำซึ่งมีขนาดใหญ่และน้ำหนักเบา ส่วนกล้ามเนื้อจะมีโครงสร้างคล้ายเส้นใยพันไปมาลักษณะคล้ายเกลียว และยังมีความหนาแน่นที่มากกว่า จะเห็นได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบสองสิ่งนี้ที่น้ำหนักเดียวกัน กล้ามเนื้อที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะมีขนาดเล็กกว่าไขมัน 1-1.5 เท่า เมื่อเราลดน้ำหนักโดยการสลายไขมันส่วนใหญ่ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือกล้ามเนื้อ ดังนั้นปริมาณของน้ำหนักตัวจึงค่อนข้างคงที่หรือลดลงเล็กน้อยในขณะที่รูปร่างมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

รายละเอียด

การพัฒนาที่ไม่สามารถมองเห็นได้

ลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เกิดการพัฒนาภายในร่างกายทั้งระบบไม่ว่าจะเป็น การเต้นของหัวใจ ระบบทางเดินหายใจ และรวมไปถึงบริเวณกล้ามเนื้อด้วย กล้ามเนื้อของคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะสะสมพลังงานมากขึ้นจากแหล่งอาหารคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการใช้ชีวิตและทำกิจกรรม ซึ่งมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของกล้ามเนื้อและลักษณะการออกกำลังกาย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วร่างกายของคนที่ออกกำลังกายจะเก็บไกลโคเจนในกล้ามเนื้อประมาณ 300-400 กรัม เมื่อรวมกับปริมาณน้ำอาจทำให้นำหนักเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัว น้ำหนักมากขึ้นหรือตัวเลข 1-2 กิโลกรัม กว่าความจริงเพราะน้ำและไกลโคเจนอาจทำให้กล้ามเนื้อดูเต็มและใหญ่ขึ้นเล็กน้อย

ในขณะที่ไขมันหนาจะบางลง แต่พูดแบบนี้เพื่อทำให้เกิดความกลัวและไม่กล้าออกกำลังกาย ข้อดีของการมีกล้ามเนื้อมากขึ้นคือ เราสามารถเก็บพลังงานได้มากขึ้นจากคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นแม้ว่าการรับประทานอาหารและไม่ออกกำลังกายเรายังคงควบคุมน้ำหนักได้ดี อ้วนได้ยาก และการสะสมไกลโคเจนนี้จะไม่ทำให้เราดูอ้วนเหมือนการสะสมไขมัน ดังนั้นทำให้รูปร่างดีขึ้น แม้ว่าน้ำหนักตัวจะไม่ลงมากตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ก็ตามที

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ขอแนะนำให้ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยอาหารและการออกกำลังกาย ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ของตัวเลขที่มากเกินไปบนตราชั่ง แต่ดูสัดส่วนของสภาพร่างกายมากขึ้น และขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่องอย่าท้อแท้และหยุดกลางคันไปซะก่อน หากไม่ยอมแพ้ก็จะผ่านช่วงน้ำหนักนิ่ง ๆ ไปได้ หรืออย่างน้อยก็คิดว่าการออกกำลังกายร่างกายมีความสดใสและสดชื่น ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง แม้นำหนักจะไม่ลงแต่ก็ไม่ขึ้นถือว่าเสมอตัว ก็ถือว่าเราได้กำไรชีวิตแล้ว

อาหารเสริม ควบคุมน้ำหนัก ที่ Shopee อาหารเสริม ควบคุมน้ำหนัก ที่ Lazada